คำถามที่พบบ่อย

The following are frequently asked questions about aromanticism and experiences of people on the aromantic spectrum.


คำถามทั่วไป

เอโรแมนติกนิยมคืออะไร
อะไรคือความเกี่ยวข้องระหว่างความเป็นเอโรแมนติกกับรสนิยมทางเพศ
แรงดึงดูดทางใจแบบโรแมนติกเป็นอย่างไร
เอโรแมนติกรักได้ไหม
เอโรแมนติกที่ไม่มีความสัมพันธ์แบบโรแมนติกเหงาหรือเปล่า
รูปแบบความสัมพันธ์ของเอโรแมนติกกับผู้อื่นเป็นอย่างไร
ความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิกคืออะไร
ความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิกแตกต่างจากความสัมพันธ์ฉันเพื่อนอย่างไร
ธงไพรด์ของเอโรแมนติกธงไหนที่ใช้เป็นหลัก

กำลังค้นหาตัวเอง

จะรู้ได้อย่างไรว่าเราคือเอโรแมนติก
เป็นเอโรแมนติกได้ไหม ถ้า (อยาก) มีความสัมพันธ์
เป็นเอโรแมนติกได้ไหม ถ้ามี อยากมี หรือเคยมีความสัมพันธ์แบบโรแมนติก
เป็นเอโรแมนติกได้ไหม ถ้าอยากแสดงออกในทางโรแมนติก (เช่น จูบ โอบกอด หรือจับมือ)
เป็นเอโรแมนติกได้ไหม ถ้าชอบเรื่องราวโรแมนติก
เป็นเอโรแมนติกได้ไหม ถ้าไม่ใช่เอเซ็กชวล

อึดอัดใจ ไปทางไหนดี

เพิ่งรู้ว่าเป็นเอโรแมนติกขณะที่อยู่ในความสัมพันธ์แบบโรแมนติก ทำอย่างไรดี
เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวเพิ่งคัมเอาต์ว่าเป็นเอโรแมนติก จะสนับสนุนเขาได้อย่างไรบ้าง
เพิ่งคัมเอาต์ว่าเป็นเอโรแมนติก แต่ไม่ได้รับความสำคัญเท่าที่ควรหรือโดนดูถูก ทำอะไรได้บ้าง
คนสำคัญของความสัมพันธ์เพิ่งคัมเอาต์ว่าเป็นเอโรแมนติก ทำอะไรได้บ้าง
คนสำคัญของความสัมพันธ์อาจเป็นเอโรแมนติก ทำอะไรได้บ้าง
จะบอกเขาอย่างไรดี ว่าต้องการอยู่ในความสัมพันธ์แบบ_ กับเขา
เป็นเอโรแมนติก แต่มีความรู้สึกแบบโรแมนติกกับคนอื่น ยังสามารถระบุว่าเป็นเอโรแมนติกได้ไหม
กำลังเขียนเกี่ยวกับตัวละครที่เป็นเอโรแมนติก ควรบรรยายอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงการล้ำเส้น


คำถามทั่วไป

Q: เอโรแมนติกนิยมคืออะไร

A: เอโรแมนติกเป็นรสนิยมทางใจแบบโรแมนติกประเภทหนึ่ง หมายความถึงคนที่มีประสบการณ์ด้านรักโรแมนติกที่ตัดขาดจากความคาดหวังตามบรรทัดฐานทางสังคม เนื่องจากมีแรงดึงดูดทางใจในแบบโรแมนติกกับผู้อื่นน้อยมาก หรือไม่มีเลย รวมไปถึงความรู้สึกไม่พึงใจหรือไม่สนใจความสัมพันธ์โรแมนติก (อ่านเพิ่มเติมได้ที่ รวมคำศัพท์) เอโรแมนติกส่วนใหญ่ไม่ตกหลุมรัก แต่อาจชอบหรือไม่ชอบกิจกรรมที่มักถูกมองว่ามีความโรแมนติก เช่น การจูบ นอกจากนี้ เอโรแมนติกอาจรู้สึกอึดอัดกับเรื่องความรักโรแมนติก หรือสบายใจก็เป็นได้ เอโรแมนติกอาจเป็นโสด มีคู่ครอง ตลอดจนแต่งงาน ซึ่งลักษณะเหล่านี้มีความเฉพาะตัวและแตกต่างไปตามตัวตนของเอโรแมนติกแต่ละคน

Q: อะไรคือความเกี่ยวข้องระหว่างความเป็นเอโรแมนติกกับรสนิยมทางเพศ

A: เอโรแมนติกสามารถมีรสนิยมทางเพศแบบใดก็ได้ หรือไม่มีเลยก็ได้เช่นกัน กล่าวคือ ความเป็นเอโรแมนติกสื่อถึงลักษณะแรงดึงดูดทางใจแบบโรแมนติกของบุคคลหนึ่ง และรสนิยมทางเพศหมายถึงลักษณะแรงดึงดูดทางเพศของบุคคลนั้น ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่คน ๆ หนึ่งจะมีรสนิยมทั้งทางใจและทางเพศ โดยในกลุ่มชุมชนเอโรแมนติกสเปกตรัม มีหลายคนที่ใช้ Split Attract Model เพื่อนิยามแรงดึงดูดทางใจแบบโรแมนติกกับแรงดึงดูดทางเพศของตนเองออกจากกัน จากประสบการณ์ทางใจและทางเพศส่วนตัว ไม่รวมถึงคนอื่น ๆ ที่นิยามรสนิยมของตัวเองแบบเดียว เช่น เอโรแมนติกนิยม (ระบุเฉพาะรสนิยมทางใจ) และไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะไม่มีแรงดึงดูดและความปรารถนาแบบโรแมนติกเลย

Q: แรงดึงดูดทางใจแบบโรแมนติกเป็นอย่างไร

A: หลายคนบรรยายความรู้สึกโรแมนติกว่า เป็นความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับความหมกมุ่น นำพาให้เกิดการพิจารณาต่อคนที่สนใจอย่างเป็นกลางน้อยลง หรือไม่อยู่บนความเป็นจริง โดยทั่วไปเรียกว่า การแอบชอบ (crush) หรือ ความหลงใหล (infatuation) มักรวมไปถึงการหวังผล ปรารถนา หรือจินตนาการถึงการมีความสัมพันธ์โรแมนติกกับคนที่ตกหลุมรัก โดยไม่เกี่ยวว่าผู้ที่เป็นฝ่ายรักจะได้ลองทำตามที่สิ่งวาดฝันไว้หรือไม่ก็ตาม เอโรแมนติกส่วนใหญ่ไม่เข้าใจถึงความรู้สึกนี้โดยตรง

Q: เอโรแมนติกรักได้ไหม

A: ไม่มีคำตอบที่แน่นอน ความเป็นเอโรแมนติกไม่ได้กำหนดความสามารถที่จะรักได้หรือไม่ได้ เอโรแมนติกส่วนใหญ่ไม่ได้ประสบกับการมีแรงดึงดูดทางใจแบบโรแมนติก และไม่ตกหลุมรัก ทั้งนี้ ในความหลากหลายทางเอโรแมนติกเอง ก็มีคนที่รู้สึกถึงแรงดึงดูดทางใจในลักษณะนั้นได้ ตัวอย่างเช่น นาน ๆ ทีรักครั้ง หรือรักในแบบที่ไม่ตรงตามค่านิยมกระแสหลักของสังคม และคนที่มีประสบการณ์ความรักแบบโรแมนติก อย่างไรก็ตาม ความรักมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ความรักในครอบครัว มิตรภาพ ความสัมพันธ์ที่มีข้อตกลงร่วมกัน ความรักที่มีให้สัตว์เลี้ยง และความรักต่อธรรมชาติ เป็นต้น โดยความรักที่เอโรแมนติกส่วนใหญ่รับรู้ คือความรักที่ไม่โรแมนติก และยังมีเอโรแมนติกอีกหลายคนที่ไม่รับรู้ความรักรูปแบบใดเลย แต่ไม่ได้หมายความว่า พวกเขาไม่อาจสัมผัสได้ถึงความใส่ใจหรืออารมณ์แต่อย่างใด ความรักเป็นเพียงอารมณ์รูปแบบหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้เป็นที่สุดเหนืออารมณ์อื่น ๆ

Q: เอโรแมนติกที่ไม่มีความสัมพันธ์แบบโรแมนติกเหงาหรือเปล่า

A: ความสัมพันธ์โรแมนติกไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่กำหนดความเหงาของแต่ละบุคคล สิ่งที่มีผลต่อความเหงาจริง ๆ แล้ว คือความต้องการในการติดต่อ สัมผัส หรือความใกล้ชิดของคน ๆ หนึ่งกับผู้อื่น รวมไปถึงการทราบว่าตัวเองมีความต้องการดังกล่าวมากน้อยแค่ไหน และสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่สามารถทำให้ความต้องการนั้นเป็นจริงได้อย่างไร สำหรับแอลโลโรแมนติก กลุ่มคนที่สนับสนุนพวกเขาอันดับแรกคือคนรักในแบบโรแมนติก และสำหรับเอโรแมนติก พวกเขาย่อมต้องการแรงสนับสนุนจากเพื่อน คู่ขา (มีมากกว่า 1 คนได้ ทั้งในทางโรแมนติกหรือกลุ่มครอบครัว) เช่นกัน การมีหรือไม่มีอยู่ของกลุ่มคนที่พร้อมสนับสนุนเอโรแมนติกจึงเป็นหัวใจหลักที่กำหนดถึงความเหงาของเอโรแมนติก โดยไม่คำนึงรสนิยมทางใจหรือทางเพศของเอโรแมนติกเอง

Q: รูปแบบความสัมพันธ์ของเอโรแมนติกกับผู้อื่นเป็นอย่างไร

A:

เอโรแมนติกจำนวนมากมีความสุขกับการเป็นโสด และไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงสถานะของตัวเอง มีเอโรแมนติกอีกมากเช่นกันที่แสวงหาความสัมพันธ์ที่มีการตกลงร่วมกันแบบต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิก ความสัมพันธ์โรแมนติก และครอบครัวที่เลือกเอง (chosen family) อาจมีมิตรภาพและความสัมพันธ์ในครอบครัวหลากหลายรูปแบบที่สำคัญกับเอโรแมนติก ไม่ว่าตัวเลือกในการสร้างความสัมพันธ์ที่ผูกพันและผูกมัดนั้นจะเป็นอย่างไร* บางครั้งคำว่า nonamorous/noonpartnering (การไม่ปรารถนาที่จะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งหรือผูกมัดในระยะยาว) จะใช้อธิบายการเลือกที่จะไม่ข้องเกี่ยวกับความความสัมพันธ์ที่มีความยึดติดต่อกันและกัน

*กรณีตัวอย่าง เช่น การรักษาความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับเพื่อนสนิท แม้จะไม่ต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ยึดติดกับใครคนอื่น โดยสถานการณ์แวดล้อมของเอโรแมนติกแต่ละคนจะแตกต่างกัน

Q: ความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิกคืออะไร

A: ความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิก คือความสัมพันธ์แบบผูกมัดที่ไม่ใช่รักโรแมนติก ที่นอกเหนือไปจากความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่เป็นไปตามบรรทัดฐานของสังคม ความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิกแสดงถึงความสำคัญระหว่างมิตรภาพเควียร์ในสภาพแวดล้อมที่สายสัมพันธ์ในลักษณะนี้มักถูกมองว่ามีคุณค่าน้อยกว่าครอบครัวและสายสัมพันธ์แบบโรแมนติก โดยระดับความใกล้ชิด การวางตัว หรือพฤติกรรมระหว่างผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์มักไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์ทางสังคม บางครั้งความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิกอาจรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ หรือการแสดงออกในเชิงโรแมนติก ดังนั้นทุกความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิกจึงแตกต่างกันในทางปฏิบัติ สำหรับคำถามเกี่ยวกับคำศัพท์เฉพาะต่าง ๆ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ รวมคำศัพท์

Q: ความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิกแตกต่างจากความสัมพันธ์ฉันเพื่อนอย่างไร

A: ความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิกกินความกว้างกว่าความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่ตรงตามบรรทัดฐานทางสังคม และไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบโรแมนติก กล่าวคือ ความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิกของคนหนึ่งอาจดูเหมือนเป็นเพียงมิตรภาพสำหรับอีกคนหนึ่ง ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม ความรู้สึก และระดับของข้อผูกมัดในความสัมพันธ์นั้น ๆ ซึ่งความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิกสามารถดูเหมือนความสัมพันธ์แบบโรแมนติกได้เช่นกัน สิ่งที่สำคัญมาก คือการที่ผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์มองว่าความสัมพันธ์ที่พวกเขามี เป็นมากกว่ามิตรภาพฉันเพื่อนตามนิยามของวัฒนธรรมกระแสหลัก สิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นความสัมพันธ์เควียร์เพลโตนิกจึงค่อนข้างขึ้นตรงกับมุมมองส่วนบุคคลที่มีส่วนสร้างความสัมพันธ์นั้น

Q: Which aromantic flag is the one in use?

A:ธงไพรด์ของเอโรแมนติกในปัจจุบันประกอบด้วยแถบแนวนอน 5 แถบ 5 สี ได้แก่ เขียว เขียวอ่อน ขาว เทา และดำ ออกแบบโดย cameronwhimsy on Tumblr (original, archived) โดยสีเขียวและเขียวอ่อนแสดงถึงความหลากหลายทางเอโรแมนติกทั้งหมด สีขาวแสดงถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ที่ไม่อยู่ในรูปแบบโรแมนติก อาทิ มิตรภาพ ครอบครัว และความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิก รวมไปถึงรูปแบบแรงดึงดูดต่าง ๆ และรักที่ไม่โรแมนติก สุดท้ายนี้ สีเทาและดำแสดงถึงความหลากหลายทางเพศวิถี (sexuality)

ธงที่ใช้ในปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดแทนที่ธงเอโรแมนติกรุ่นแรกและรุ่นที่สอง โดยธงรุ่นแรกมี 4 แถบแนวนอน ประกอบไปด้วยสีเขียว สีเหลือง สีส้ม และสีดำ ธงรุ่นแรกนี้กำหนดให้สีเขียวแสดงถึงอัตลักษณ์เอโรแมนติก ซึ่งเป็นสีตรงข้ามของสีแดงที่มักใช้สื่อถึงความโรแมนติก

เนื่องจากธงเอโรแมนติกดั้งเดิมมีความคล้ายคลึงกับธง Rastafarian (ขบวนการทางศาสนาและการเมืองของคนผิวดำที่มีต้นกำเนิดในจาเมกาในช่วงยุค 1930) จึงมีการเสนอธงรูปแบบอื่น ๆ เพิ่ม นำไปสู่การออกแบบธงรุ่นที่สองโดยผู้ออกแบบธงที่ใช้เป็นหลักในปัจจุบัน ธงรุ่นที่สองประกอบไปด้วย 5 แถบแนวนอนสีเขียว สีเขียวอ่อน สีเหลือง สีเทา และสีดำ ดังนั้น ธงรุ่นที่สองและธงที่ใช้ในปัจจุบันจึงมีความใกล้เคียงกัน

ทั้งนี้ในระยะแรก การประกบสี 4 สีขนาบข้างกันบนธงสร้างความเครียดด้านการรับรู้แก่บางคน จึงมีการปรับใช้แถบสีขาวแทนสีเหลือง และพัฒนามาเป็นธงไพรด์ของเอโรแมนติกที่แพร่หลายในปัจจุบัน


 

กำลังค้นหาตัวเอง

Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าเราคือเอโรแมนติก

A: เอโรแมนติกแต่ละคนค้นพบตัวเองด้วยวิธีที่แตกต่างกัน หลายครั้งเอโรแมนติกทราบถึงตัวตนจากการเปรียบเทียบตนเองกับเพื่อน ๆ เพื่อไตร่ตรองถึงสิ่งที่บ่มเพาะภาพของความรักโรแมนติกในวัฒนธรรมของตนเอง และครุ่นคิดว่าตนเองเข้าใจภาพนั้นได้มากน้อยแค่ไหน หรือนั่นเป็นสิ่งที่ตนเองต้องการมีส่วนร่วมหรือเปล่า สถานการณ์ที่ยกตัวอย่างมาต่อไปนี้ อาจช่วยให้ผู้ที่กำลังสงสัยเกี่ยวกับความเป็นเอโรแมนติกในตัวเอง สามารถเข้าใจถึงตัวตนของเอโรแมนติกได้มากขึ้น เช่น

  • เอโรแมนติกบางคนไม่ต้องการตามหาคนรักแบบโรแมนติก ไม่รู้สึกกระตือรือร้นกับความคิดในการมีคนรักในลักษณะดังกล่าว มีข้ออ้างต่าง ๆ ว่าทำไมจึงไม่มีความต้องการ และ/หรือรู้สึกราวกับว่า การมีความสัมพันธ์แบบโรแมนติกเป็นเรื่องที่ถูกบังคับกับตนเอง

  • เอโรแมนติกบางคนต้องการตามหาคนรักแบบโรแมนติก แต่ไม่สนใจจะแสวงหาความสัมพันธ์แบบโรแมนติกอย่างจริงจังกับผู้คนที่พบเจอ และอาจปฏิเสธโอกาสที่ตัวเองจะเริ่มความสัมพันธ์นั้น ๆ

  • เอโรแมนติกบางคนอึดอัดกับความสัมพันธ์โรแมนติกระหว่างตนเองกับคนที่ชอบ มักรู้สึกเหมือนว่า คนรักรักพวกเขามากกว่าที่พวกเขารักคนรัก

  • เอโรแมนติกบางคนไม่สามารถแสดงออกถึงความโรแมนติกอย่างเป็นธรรมชาติได้ ราวกับว่า การแสดงออกเหล่านั้นเป็นการแสดงเพื่อทำให้คนรักสบายใจ

  • เอโรแมนติกบางคนไม่เคยตกหลุมรัก และไม่คิดว่าการตกหลุมรักเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น

  • เอโรแมนติกบางคนหวังว่าตนเองจะได้ตกหลุมรักหรือมีคนที่ชอบ แต่มันไม่เกิดขึ้น

  • เอโรแมนติกบางคนเคยตกหลุมรักหรือมีคนที่ชอบ แต่นาน ๆ ทีจึงได้รัก หรือเป็นรักที่เกิดขึ้นในสถานการณ์พิเศษเท่านั้น

  • เอโรแมนติกบางคนสับสนว่า ทำไมคนอื่นถึงดูหมกมุ่นกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ

  • เอโรแมนติกบางคนนึกเอาเองว่า คนอื่น ๆ อาจแต่งเรื่องหรือกล่าวเกินจริงเกี่ยวกับการมีแรงดึงดูดทางใจแบบโรแมนติก ตลอดจนความหลงใหลต่าง ๆ

  • เอโรแมนติกบางคนไม่สามารถบอกได้ว่า ความรักที่ตนเองมีให้คนที่ชอบเป็นแบบเพลโตนิกหรือโรแมนติก

  • เอโรแมนติกบางคนอาจรู้สึกสบายใจหรืออึดอัดใจกับการกระทำที่แสดงออกถึงความรัก เช่น การโอบกอด การรับของแทนใจ และการถูกเรียกด้วยคำที่แสดงออกถึงความรัก (ชื่อเล่น) เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าอีกฝ่ายตั้งใจให้การกระทำเหล่านั้นสื่อถึงความโรแมนติกหรือไม่

  • เอโรแมนติกบางคนอาจอยากไปเดทกับเพื่อน ๆ และบอกไม่ได้ว่าความรู้สึกของการไปเดทใช่หรือไม่ใช่แบบโรแมนติก

  • เอโรแมนติกบางคนตั้งใจเลือกคนที่ชอบ แทนที่จะมีความชอบตามธรรมชาติให้กับคน ๆ นั้น หรือโกหกเมื่อถูกถามถึงคนที่ชอบ

  • เอโรแมนติกบางคนไม่สังเกตเห็นว่าใครกำลังจีบตัวเอง หรือไม่สังเกตถึงพฤติกรรมของตนเองที่อาจดูเหมือนว่ากำลังจีบคนอื่นอยู่

  • เอโรแมนติกบางคนประหลาดใจเวลาได้ยินว่าคนอื่นกำลังคบกัน ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตจริงหรือนิยาย สำหรับพวกเขาแล้ว คนกลุ่มนั้นดูเหมือนเพิ่งรู้จักกันหรือไม่ได้รู้จักกันดี

  • เอโรแมนติกบางคนรู้สึกอึดอัดเมื่อใครสักคนสารภาพรักหรือบอกชอบตัวเอง ความรู้สึกดังกล่าวรวมถึงความกังวล ความหวาดกลัว ความรู้สึกผิด ความตื่นตระหนก หรือเสมือนว่าเป็นความรับผิดชอบที่ต้องจัดการ

  • เอโรแมนติกบางคนอาจสนใจใครคนหนึ่งแบบโรแมนติกเฉพาะตอนที่สภาพรักหรือบอกชอบเขาไปแล้วเท่านั้น

  • เอโรแมนติกบางคนนึกถึงความรักโรแมนติกเฉพาะตอนที่ดูสื่อต่าง ๆ ตอนที่ญาติถามว่ามีคนที่กำลังคบหาอยู่หรือเปล่า หรือตอนที่วงสนทนาของเพื่อน ๆ มีการพูดคุยถึงชีวิตรักของแต่ละคน เอโรแมนติกอาจนึกถึงความรักแบบโรแมนติกเพียงชั่วครู่ และลืมความคิดนั้นเมื่อเวลาผ่านไป

  • เอโรแมนติกบางคนอาจสนุกกับการหยอกล้อหรือจีบเล่น ๆ และไม่ได้เจตนาที่จะเดทหรือสร้างความสัมพันธ์โรแมนติก

  • เอโรแมนติกบางคนอาจถูกบอกว่า เป็นคนที่ให้คำแนะนำในการเดทได้อย่างน่าเชื่อถือเนื่องจากการมองโลกที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง

สำหรับข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถอ่านแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ได้ที่ (original, archived)

โดยเอโรแมนติกหลายคนพูดคุยถึงสัญญาณของความเป็นโอเรแมนติกต่าง ๆ

People discussing the early signs of their aromanticism

Q: เป็นเอโรแมนติกได้ไหม ถ้า (อยาก) มีความสัมพันธ์

A: ได้แน่นอน เอโรแมนติกสามารถ (อยาก) ที่จะมีความสัมพันธ์ได้ แถมเอโรแมนติกบางคนกำลังอยู่ในความสัมพันธ์แบบผูกมัดในระยะยาวหลากหลายรูปแบบ เอโรแมนติกที่เลือกตามหาความสัมพันธ์แบบผูกมัดอธิบายถึงแนวคิดลักษณะนี้ด้วยคำว่า amorous/partnering (การปรารถนาที่จะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งหรือผูกมัดในระยะยาว) ความสัมพันธ์ดังกล่าวอาจเป็นไปในแบบโรแมนติกหรือไม่โรแมนติกก็ได้ โดยตัวอย่างรูปแบบความสัมพันธ์ที่ไม่โรแมนติก ได้แก่ ความสัมพันธ์แบบเควียร์เพลโตนิก เอโรเมต (aromate) และครอบครัวที่เลือกเอง (chosen family) นอกจากนี้ เอโรแมนติกบางคนยังยึดถือแนวคิดความสัมพันธ์แบบอนาธิปไตย (relationship anarchy) อีกด้วย

Q: เป็นเอโรแมนติกได้ไหม ถ้ามี อยากมี หรือเคยมีความสัมพันธ์แบบโรแมนติก

A: ได้แน่นอน เอโรแมนติกสามารถ (อยาก) มีความสัมพันธ์แบบโรแมนติกได้ คุณสามารถระบุว่าตนเองเป็นเอโรแมนติกได้เช่นกัน หากเคยมีความสัมพันธ์มาก่อน ความสัมพันธ์โรแมนติกเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งสำหรับเอโรแมนติกเท่านั้น ถึงแม้ว่าเอโรแมนติกหลายคนรู้สึกอึดอัดกับเรื่องความรักโรแมนติก ทั่วไปแล้ว ความสัมพันธ์แบบโรแมนติกเป็นเพียงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลประเภทหนึ่ง และไม่จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือแรงดึงดูด ตราบใดที่ทั้งตัวคุณและคนที่อยู่ในความสัมพันธ์เดียวกันสบายใจที่จะเรียกความสัมพันธ์นี้ว่าเป็นแบบโรแมนติก คุณย่อมอธิบายความสัมพันธ์นั้นได้ตามที่คุณต้องการ

Q: เป็นเอโรแมนติกได้ไหม ถ้าอยากแสดงออกในทางโรแมนติก (เช่น จูบ โอบกอด หรือจับมือ)

A: ได้แน่นอน เอโรแมนติกสามารถ (อยาก) แสดงออกแบบนั้นได้ เอโรแมนติกบางคนชื่นชอบการแสดงออกถึงพฤติกรรมที่ดูโรแมนติกในวัฒนธรรมของแต่ละคน อย่างการจูบและการโอบกอด ส่วนใหญ่เอโรแมนติกกลุ่มนี้อาจไม่ได้ตั้งใจแสดงพฤติกรรมข้างต้นด้วยเจตนาที่โรแมนติก และอาจรู้สึกอึดอัดเมื่อเบื้องหลังพฤติกรรมเหล่านั้นกลับมีเจตนาที่โรแมนติก อย่างไรก็ตาม มีเอโรแมนติกอีกกลุ่มหนึ่งเช่นกันที่ไม่ได้อึดอัดใจกับการที่พฤติกรรมที่ว่ามีเจตนาในการแสดงออกแบบโรแมนติก

Q: เป็นเอโรแมนติกได้ไหม ถ้าชอบเรื่องราวโรแมนติก

A: ได้แน่นอน เอโรแมนติกสามารถชื่นชอบเรื่องราวโรแมนติกได้ ทั่วไปแล้ว คนก็ชอบรายละเอียดในเรื่องแต่งที่ไม่ได้อยากให้กลายมาเป็นความจริงในชีวิตจริง สำคัญว่า เอโรแมนติกที่ชอบอ่านหรือดูเกี่ยวกับเรื่องความรักโรแมนติก อาจไม่ได้รู้สึกสบายใจถ้าต้องเผชิญกับท่าทางหวาน ๆ ของผู้อื่นกับตัวเอง เอโรแมนติกบางคนอาจคิดว่าเรื่องราวโรแมนติกเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นจริงได้ แต่น่าสนใจและน่าหลงใหล คล้ายกับการมุมมองต่อเรื่องราวของเวทมนตร์

Q: เป็นเอโรแมนติกได้ไหม ถ้าไม่ใช่เอเซ็กชวล

A: ได้แน่นอน ความเป็นเอโรแมนติกและความเป็นเอเซ็กชวลไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกัน เอโรแมนติกบางคนเปนเอเซ็กชวล บางคนเป็นแอลโลเซ็กชวล และบางคนไม่ได้ระบุถึงรสนิยมทางเพศของตัวเองเลย ในตอนนี้มีผู้ที่ระบุว่าตนเองมีอัตลักษณ์เอโรแมนติกเป็นเอเซ็กชวลจำนวนมาก เนื่องจากคำว่า เอโรแมนติก เริ่มต้นมาจากในกลุ่มชุมชนของเอเซ็กชวลเอง เมื่อผู้คนได้เรียนรู้เกี่ยวกับเอโรแมนติกนิยมมากขึ้น เราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสัดส่วนของผู้ที่เป็นเอเซ็กชวลด้วยในกลุ่มชุมชนของเอโรแมนติก


 

อึดอัดใจ ไปทางไหนดี

Q: เพิ่งรู้ว่าเป็นเอโรแมนติกขณะที่อยู่ในความสัมพันธ์แบบโรแมนติก ทำอย่างไรดี

A: เป็นการตกที่นั่งลำบากจริง ๆ แต่อย่ากังวลไปเลย คุณไม่ได้ตัวคนเดียว มีเอโรแมนติกหลายคนได้นั่งที่เดียวกันนี้มาแล้ว ลองคิดถึงสิ่งที่อยากทำที่จะเป็นผลดีต่อตัวเองเมื่อได้รู้ถึงตัวตนนี้แล้ว ลองถามตัวเองว่า อยากให้ผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์นี้รู้ถึงอัตลักษณ์ของตัวคุณหรือเปล่า อยากเปลี่ยนแปลงบางอย่างในความสัมพันธ์ที่จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นไหม รู้สึกอึดอัดใจและอยากจบความสัมพันธ์หรือเปล่า ลองใช้เวลาเปิดอกกับผู้ที่คุณมีความสัมพันธ์ด้วย พูดคุยเรื่องตัวตนและความหมายของอัตลักษณ์นี้ ลองเสนอสิ่งที่คุณต้องการจากความสัมพันธ์และถามอีกฝ่ายถึงสิ่งที่เขาต้องการในทางกลับกัน ลองพูดคุยเกี่ยวกับขอบเขตของความรักถ้าต้องการ และลองเสนอทางเลือกเกี่ยวกับรูปแบบความสัมพันธ์ที่แตกต่างออกไป เพื่อดูว่าทางออกไหนจะดีที่สุด ขอเป็นกำลังใจ และขอให้คุณโชคดีเสมอ

Q: เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวเพิ่งคัมเอาต์ว่าเป็นเอโรแมนติก จะสนับสนุนเขาได้อย่างไรบ้าง

A: เอโรแมนติกแต่ละคนมีความต้องการการสนับสนุนที่แตกต่างกัน ลองถามเขาถึงสิ่งที่เขาต้องการให้คนรอบตัวทราบเกี่ยวกับความเป็นเอโรแมนติก ถามถึงความมุ่งหวังที่เขาไม่ต้องการการข้องเกี่ยว ยกตัวอย่างเช่น ความคาดหวังให้มีคู่ครองหรือแต่งงาน และมีลูกกับคนรักในแบบโรแมนติก ลองถามเกี่ยวกับรูปแบบของความสัมพันธ์และระดับความใกล้ชิดที่เขารู้สึกสบายใจ หรือหาข้อมูลอ่านเองเพิ่มเติม โดยคำนึงว่าความต้องการของเอโรแมนติกแต่ละคนแตกต่างกัน และลองถามเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวคนนั้นเกี่ยวกับวิธีการสนับสนุนเขาอย่างเหมาะสมที่สุด และแสดงน้ำใจตามสิ่งที่เขาขอ เหนือสิ่งอื่นใดแล้ว ควรบอกให้เขาทราบว่าคุณเชื่อในตัวเขา และพร้อมให้พื้นในการเป็นตัวเองกับเขา

Q: เพิ่งคัมเอาต์ว่าเป็นเอโรแมนติก แต่ไม่ได้รับความสำคัญเท่าที่ควรหรือโดนดูถูก ทำอะไรได้บ้าง

A:  เสียใจด้วยที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ เป็นสถานการณ์ที่ยากและอาจไม่มีทางออกสำหรับทุกกรณี แต่ความปลอดภัยถือเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับแรก ลองพิจารณาว่าคนที่เพิ่งทราบเกี่ยวกับตัวตนนี้เป็นคนที่คุณพึ่งพาในการดำรงชีวิตหรือไม่ ถ้าใช่ มีคนอื่นที่อาจช่วยคุณหาทางหนีทีไล่หากมีอะไรไม่ปกติเกิดขึ้นหรือเปล่า สำหรับผู้เยาว์ อาจรวมไปถึงบุคคลหรือหน่วยงานที่สามารถช่วยเหลือทางกฎหมายได้ด้วย ลองพิจารณาว่าการปฏิบัติที่ไม่ดีของคน ๆ นั้นเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความคิดโดยรวมของเขาต่อคนอื่น ๆ ที่แตกต่างจากบรรทัดฐานทางสังคมหรือไม่ และการที่เขาพูดถึงคนเหล่านั้นเป็นอย่างไร ตัวอย่างเช่น มีการขู่ถึงการใช้ความรุนแรง และทบทวนถึงท่าทีของเขาต่อการพูดคุยเรื่องความรู้สึก ความพร้อมที่จะยอมรับข้อผิดพลาด ตลอดจนการกล่าวขอโทษ


ถ้าเห็นว่ามีแรงสนับสนุนมากพอในกรณีที่สถานการณ์ผิดปกติ ลองพูดคุยถึงการกระทำของเขาที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี ในบางครั้ง ผู้คนไม่ได้ตระหนักว่าคำพูดของเขาส่งผลกระทบต่อคนอื่นมากแค่ไหน และการเปิดอกสนทนาสามารถสร้างความเข้าใจที่ตรงกันได้ แต่ถ้าไม่รู้สึกว่าการพูดคุยเป็นทางเลือกในขณะนี้หรือในอนาคต ลองเอ่ยปัญหานี้ให้คนที่พร้อมสนับสนุนคุณฟัง เช่น เพื่อน สมาชิกในครอบครัว หรือกลุ่มออนไลน์ ถ้ายังไม่มีคนที่เชื่อใจให้รับฟัง เราขอแนะนำการขอความช่วยเหลือจากพื้นที่สำหรับเอโรแมนติกโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น เว็บบอร์ด บล็อก (ดูเพิ่มเติมได้ที่ แหล่งข้อมูลออนไลน์ [EN]) เพื่อคุยกับคนที่เข้าใจ แน่นอนว่าการรับมือกับการกระทำที่หยาบคายหรือเฉยเมยจะง่ายขึ้น ถ้ามีคนยืนอยู่เคียงข้างกัน

Q: คนสำคัญของความสัมพันธ์เพิ่งคัมเอาต์ว่าเป็นเอโรแมนติก ทำอะไรได้บ้าง

A:  ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่คุณและคนสำคัญของคุณต้องการจากความสัมพันธ์คืออะไร และจุดประสงค์ของเขาในการบอกให้คุณทราบถึงอัตลักษณ์ของเขาคืออะไร การค้นพบถึงตัวตนนี้อาจเป็นเรื่องที่ยากลำบาก เพราะเอโรแมนติกไม่ได้เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย คนบางคนอาจยังไม่เชื่อว่าการเป็นเอโรแมนติกเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ ด้วยเหตุนี้ เอโรแมนติกบางคนอาจเริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยเหตุผลหลากหลายประการ การทราบถึงความหมายของอัตลักษณ์เอโรแมนติกต่อคนสำคัญของคุณจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อพิจารณาว่าความเป็นเอโรแมนติกของบุคคลในความสัมพันธ์เดียวกันจะมีผลอย่างไร เอโรแมนติกบางคนต้องการบอกเล่าตัวตนนี้ เพราะเห็นว่าคุณคือคนที่สำคัญต่อเขา บางคนต้องการบอกเลิกเพราะเห็นว่าความสัมพันธ์แบบโรแมนติกไม่ใช่สิ่งที่ใช่สำหรับเขา บางคนอาจต้องการออกจากความสัมพันธ์ บางคนอาจต่อรองถึงการดำเนินความสัมพันธ์เดิมแบบใหม่ เนื่องจากอาจอึดอัดกับการแสดงออกบางอย่าง หรือไม่ต้องการนิยามความสัมพันธ์นี้ว่าเป็นแบบโรแมนติก (ตัวเลือกอื่น เช่น เควียร์เพลโตนิก) ไม่มีทางออกไหนที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกปัญหา การเปิดใจสนทนากับคนสำคัญของคุณเกี่ยวกับความรู้สึกและความคาดหวังของกันและกันอาจช่วยให้คุณมองเห็นหนทางที่เหมาะสมต่อไปได้

Q: คนสำคัญของความสัมพันธ์อาจเป็นเอโรแมนติก ทำอะไรได้บ้าง

A: เขาอาจเคยพูดถึงประสบการณ์ที่เข้าเค้ากับการเป็นเอโรแมนติก รวมไปถึงนัยยะอื่น ๆ ที่บ่งบอกว่า เขาไม่ค่อยมีแรงดึงดูดทางใจทั่วไปเหมือนคนอื่น ลองเสนอแนวคิดของการเป็นเอโรแมนติกให้เขาฟัง โดยเฉพาะถ้าเขาดูเหมือนกำลังลำบากใจกับเรื่องนี้ และรู้สึกแปลกแยกจากคนอื่นที่มีความรู้สึกแบบโรแมนติก ถ้าเขาทราบถึงตัวตนเอโรแมนติกของตัวเองแล้ว สำหรับบางคนอาจจะเป็นการเข้าใจความจริงที่น่ายินดี แต่บางคนอาจรู้สึกว่าตัวเองบกพร่อง ดังนั้นการพบกับกลุ่มชุมชนของแอโรแมนติกเองอาจช่วยได้ ลองอ่านได้ที่ แหล่งข้อมูลออนไลน์ [EN] และ ออฟไลน์ [EN] ลองพูดคุยถึงความหมายของการเป็นเอโรแมนติกที่มีผลต่อความสัมพันธ์กับเขา เพราะเอโรแมนติกแต่ละคนมีความต้องการ ความรู้สึก และความคาดหวังที่แตกต่างกัน หรือลองอ่าน คนสำคัญของความสัมพันธ์เพิ่งเปิดเผยว่าเป็นเอโรแมนติก ทำอะไรได้บ้าง เพิ่มเติม

Q: จะบอกเขาอย่างไรดี ว่าต้องการอยู่ในความสัมพันธ์แบบ_ กับเขา

A: อันดับแรก ควรแน่ใจก่อนว่าเขาคนนั้นรู้จักรูปแบบความสัมพันธ์ที่คุณต้องการไหม ลองอธิบายว่าความสัมพันธ์นั้นคืออะไร หากเขาไม่รู้จัก ควรเปิดอกพูดคุยถึงสิ่งที่คุณต้องการอย่างชัดเจนจากความสัมพันธ์รูปแบบนี้ และถามเขาถึงสิ่งที่เขาต้องการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาข้อตกลงร่วมเกี่ยวกับขอบเขตของการแสดงออกบางอย่าง รวมไปถึงระดับความผูกมัดของความสัมพันธ์ ขอเป็นกำลังใจ และขอให้คุณโชคดีเสมอ

Q: เป็นเอโรแมนติก แต่มีความรู้สึกแบบโรแมนติกกับคนอื่น ยังสามารถระบุว่าเป็นเอโรแมนติกได้ไหม

A: ความเป็นเอโรแมนติกคือการมีประสบการณ์ด้านแรงดึงดูดแบบโรแมนติกน้อยมาก หรือไม่มีเลย หมายความว่า เอโรแมนติกสามารถรู้สึกถึงแรงดึงดูดในลักษณะนั้นได้ เพียงแค่ไม่บ่อย เป็นไปภายใต้สถานการณ์พิเศษ หรือไม่เป็นไปตามค่านิยมกระแสหลักของสังคม สิ่งที่สำคัญมาก คือการที่เอโรแมนติกมีประสบการณ์ร่วมกับความเป็นเอโรแมนติกมากกว่าประสบการณ์แบบแอลโลโรแมนติก พวกเราทุกคนล้วนมีความแตกต่างหลากหลาย ลองอ่านเกี่ยวกับอัตลักษณ์ต่าง ๆ ในความหลากหลายนี้ได้ที่ รวมคำศัพท์ [EN] ที่อธิบายถึงการมีความรู้สึกถึงแรงดึงดูดทางใจแบบต่าง ๆ หรือการไม่รู้สึกถึงแรงดึงดูดแบบโรแมนติกเลย คุณอาจจะพบกับผู้คนที่มีประสบการณ์คล้ายคลึงกัน

Q: I’m writing an aromantic character, how do I make sure my portrayal doesn’t come across as offensive?

A:  สิ่งที่ดีที่สุด คือการจัดวางให้ความเป็นเอโรแมนติกของตัวละครเป็นเพียงหนึ่งในลักษณะของเขา โดยคุณสามารถเขียนให้ตัวละครมีพฤติกรรมที่เป็นผลมาจากอัตลักษณ์นี้ ยกตัวอย่างเช่น การไม่รับรู้ถึงความรู้สึกโรแมนติกของตัวละครอีกตัว แต่ดึงเอาตัวตนของตัวละครที่มากกว่าความเป็นเอโรแมนติกออกมาด้วย และสร้างบุคลิกของตัวละครที่ไม่ขึ้นกับความเป็นเอโรแมนติก ลองอ่านเพิ่มเติมได้ที่ แหล่งความรู้ [EN] รวมถึง ห้องข่าว [EN] และ รวมคำศัพท์ เพื่อเพิ่มความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเอโรแมนติกนิยมและประสบการณ์ของผู้ที่มีอัตลักษณ์เอโรแมนติก เพราะพวกเราย่อมมีความหลากหลาย นอกจากนี้ โปรดระบุถึงตัวตนเอโรแมนติกของตัวละครในยุคปัจจุบันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะให้ตัวละครพูดถึงอัตลักษณ์ของตนเอง หรือกล่าวถึงอัตลักษณ์ผ่านการบรรยาย การระบุอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยให้ผู้คนได้ทำความรู้จักกับการเป็นเอโรแมนติกมากขึ้น ขอเป็นกำลังใจ และขอให้คุณโชคดีเสมอ